Please use this identifier to cite or link to this item: https://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/23841
Title: การพัฒนาวิธีการวิเคราะห์และการหาปริมาณแคปไซซินและไดไฮโดรแคปไซซิน ในผลิตภัณฑ์พริกและอาหารรสเผ็ด : รายงานการวิจัยฉบับสมบูรณ์ ปีที่ 3 (ต.ค. 2551 ถึง ก.ย. 2552)
Other Titles: Development of analytical methods and determination of capsaicin and dihydrocapsaicin in chili products and hot spicy food
Authors: ธรรมนูญ หนูจักร
อมร เพชรสม
Other author: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. คณะวิทยาศาสตร์
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. สถาบันเทคโนโลยีชีวภาพและวิศวกรรมพันธุกรรม
Subjects: แคปไซซิน
ไดไฮโดรแคปไซซิน
สารสกัดจากพืช
พริก
พริก -- วิเคราะห์และเคมี
Issue Date: 2552
Publisher: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
Abstract: ได้ประยุกต์วิธีการเตรียมตัวอย่างและเทคนิคไมเซลลาร์อิเล็กโทรไคเนทิกโครมาโทกราฟี (MEKC) ที่พัฒนาขึ้นในงานวิจัยก่อนหน้านี้ สำหรับการวิเคราะห์ปริมาณแคปไซซินอยด์ (CAPs) ในตัวอย่างจริงที่เป็นซอสพริกและเครื่องแกงสำเร็จรูป เมื่อใช้การทดสอบทางสถิติด้วยวิธี paired t-test ที่ระดับความเชื่อมั่น 95 % พบว่าปริมาณของ CAPs ในซอสพริก 9 ตัวอย่างที่วิเคราะห์ได้ด้วยเทคนิค MEKC และ HPLC ไม่มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญ จากการวิเคราะห์ด้วย MEKC ปริมาณ CAPs ที่พบในซอสพริก 22 ตัวอย่าง อยู่ในช่วง 13 ถึง 262 ppm และปริมาณ CAPs ในเครื่องแกงสำเร็จรูป 5 ตัวอย่าง อยู่ในช่วง 41 ถึง 140 ppm โดยที่ซอสพริก 7 ตัวอย่าง และเครื่องแกงสำเร็จรูป 4 ตัวอย่าง มีปริมาณ CAPs มากกว่า 50 ppm (mg/kg) ซึ่งเป็นปริมาณจำกัดที่สหภาพยุโรป แนะนำ ในอาหารเผ็ดจัด นอกจากนี้ปริมาณ CAPs ที่วิเคราะห์ได้จากต่างยี่ห้อกันไม่มีความสัมพันธ์กับปริมาณพริกและระดับความเผ็ดที่ระบุไว้ ดังนั้น MEKC และวิธีการเตรียมตัวอย่างที่พัฒนาขึ้นนี้จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของการวิเคราะห์ปริมาณ CAPs เพื่อควบคุมคุณภาพของผลิตภัณฑ์และเป็นข้อมูลความปลอดภัยของผู้บริโภคได้
Other Abstract: Capsaicinoids (CAPs) in real samples of chili sauces and chili pastes were determined using sample preparation and micellar electrokinetic chromatography (MEKC) developed in our previous work. Using paired t-test analysis at the 95 % confidence interval of the mean, non-significant difference was obtained for the amounts of CAPs in 9 samples of chili sauces determined by MEKC and HPLC. The amounts of CAPs were found to be 13-262 ppm in 22 chili sauces samples and 41-140 ppm in 5 chili pastes samples. It should be noted that 7 chili sauce samples and 4 chili paste samples contain CAPs higher than 50 ppm that is the limit level recommended by European Commission. In addition, the determined CAPs in different brands of chili sauces and chili pastes are neither correlated with their chili content nor hot degree labeled on each product. Therefore, this developed MEKC method may be used as an alternative method for determination of CAPs in chili sauces and chili pastes for quality control and health safety.
URI: http://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/23841
URI: http://doi.org/10.58837/CHULA.RES.2009.1
metadata.dc.identifier.DOI: 10.58837/CHULA.RES.2009.1
Type: Technical Report
Appears in Collections:Sci - Research Reports

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
Thumnoon_n 1.pdf2.23 MBAdobe PDFView/Open


Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.