Please use this identifier to cite or link to this item: https://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/27624
Title: การตลาดและทัศนคติของผู้บริโภคที่มีต่ออุปกรณ์การดับเพลิง สำหรับที่อยู่อาศัยในเขตกรุงเทพมหานคร
Other Titles: Marketing of and consumers' attitude towards fire-extinguisher for residences in Bangkok metropolitan area
Authors: สมชาย เตียทะสินธ์
Advisors: นงนิตย์ ศิริโภคากิจ
Other author: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.บัณฑิตวิทยาลัย
Issue Date: 2526
Publisher: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
Abstract: การศึกษาทางด้านการตลาดและทัศนคติของผู้บริโภคที่มีต่ออุปกรณ์การดับเพลิงสำหรับที่อยู่อาศัยในเขตกรุงเทพมหานคร เป็นหัวข้อที่น่าศึกษา เพราะในปัจจุบันราคาที่ดินมีราคาสูงขึ้นจึงมีการสร้างที่อยู่อาศัยที่มีความสูงตั้งแต่ 10 ชั้นขึ้นไปเป็นจำนวนมาก แต่ขีดความสามารถในการดับเพลิงของกองตำรวจดับเพลิงมีขีดความสามารถในการดับเพลิงสิ่งก่อสร้างที่มีความสูงไม่เกิน 10 ชั้นเท่านั้น การเกิดอัคคีภัยในประเทศไทย โดยเฉพาะในเขตกรุงเทพมหานครเกิดขึ้นทุกวัน ทำให้เกิดความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินนับเป็นการสูญเสียทางเศรษฐกิจปีละหลายร้อยล้านบาท ผู้เขียนจึงตั้งใจที่จะหาหัวข้อที่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมเป็นหลักในการศึกษา จาการศึกษาถึงการตลาดของเครื่องดับเพลิงเคมีโดยการสัมภาษณ์บริษัทผู้ผลิตจัดจำหน่ายอุปกรณ์การดับเพลิง ปรากฏว่า เครื่องดับเพลิงเคมีที่จำหน่ายอยู่ในปัจจุบัน ร้อยละ 70จะเป็นผลิตภัณฑ์ที่ผลิตภายในประเทศ ส่วนเหลืออีกร้อยละ 30 จะเป็นผลิตภัณฑ์ที่นำเข้าจากต่างประเทศ ประเภทของเครื่องดับเพลิงเคมีที่จำหน่ายได้มากที่สุดคือ เครื่องดับเพลิงเคมีประเภทผงเคมีแห้งซึ่งคิดเป็นร้อยละ 80 ของเครื่องดับเพลิงเคมีทุกประเภท การแข่งขันทางด้านราคามีมากในธุรกิจนี้ ทำให้มีผลต่อคุณภาพของสินค้า และยังไม่มีการควบคุมด้านคุณภาพจากรัฐบาลด้วย ในการจำหน่ายเครื่องดับเพลิงเคมีนี้ บริษัทผู้ผลิตจัดจำหน่ายยังให้ความสนใจต่อผู้บริโภคตามที่อยู่อาศัยน้อยมา ส่วนใหญ่จะให้ความสนใจ หน่วยธุรกิจขนาดใหญ่ โรงงานอุตสาหกรรม และหน่วยงานราชการของรัฐบาล ด้วยการส่งเสริมการจำหน่ายสำหรับธุรกิจนี้มีไม่มากนัก สำหรับการศึกษาทางด้านทัศนคติของผู้บริโภค ซึ่งใช้วิธีการวิจัยสำรวจโดยออกแบบสอบถามไปยังผู้บริโภคในเขตต่างๆ ของกรุงเทพมหานคร ผลที่ได้จาการศึกษาแสดงให้เห็นว่า ผู้บริโภคส่วนใหญ่ยอมรับในความจำเป็นที่จะต้องมีเครื่องดับเพลิงเคมีไว้ประจำบ้าน แต่ผู้บริโภคส่วนใหญ่รวมทั้งผู้ที่มีเครื่องดับเพลิงเคมีอยู่แล้วและผู้ที่จะซื้อเครื่องดับเพลิงเคมี มีความรู้เกี่ยวกับเครื่องดับเพลิงเคมีน้อยมาก ส่วนใหญ่ผู้บริโภคที่มีเครื่องดับเพลิงเคมีอยู่แล้ว มีเครื่องดับเพลิงเคมีประเภทผงเคมีแห้ง จำนวนที่มีอยู่ 1 เครื่อง ขนาด 6-10 ปอนด์ ราคาที่ซื้อมาระหว่าง 601=1,000 บาท และซื้อจากพนักงานขายโดยตรง และส่วนใหญ่ผู้บริโภคที่จะซื้อเครื่องดับเพลิงเคมีจะซื้อเครื่องดับเพลิงเคมีประเภทผงเคมีแห้ง จำนวน 1เครื่องขนาด 6-10 ปอนด์ ราคาระหว่าง 200-500 บาท และจะซื้อเครื่องดับเพลิงเคมีจากร้านจำหน่ายอุปกรณ์การดับเพลิง ผู้บริโภคที่มีเครื่องดับเพลิงเคมีอยู่แล้ว และผู้ที่ซื้อเครื่องดับเพลิงเคมี คำนึงถึงปัจจัยด้านคุณภาพมีจำนวนมากที่สุดเหมือนกัน ส่วนผู้ตอบทั้งหมดเห็นด้วยกับทัศนคติที่ว่า ราคาเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดในการซื้อเครื่องดับเพลิงเคมี ผู้เขียนมีข้อเสนอแนะว่า บริษัทผู้ผลิตจัดจำหน่ายอุปกรณ์การดับเพลิงควรขอความร่วมมือจากหน่วยงานราชการในการจัดทำหนังสือคู่มือด้านคุณภาพประเภทของเครื่องดับเพลิงเคมี ประสิทธิภาพและวิธีการใช้ ในการเผยแพร่ความรู้ เกี่ยวกับเครื่องดับเพลิงเคมี เพื่อจะได้เป็นพื้นฐานทำให้เกิดความสนใจและกระตุ้นให้มีเครื่องดับเพลิงเคมีไว้ประจำบ้าน บริษัทผู้ผลิตจัดจำหน่ายอุปกรณ์การดับเพลิง ควรให้ความสนใจต่อผู้บริโภคตามที่อยู่อาศัยจริงจัง โดยใช้ส่วนผสมทางการตลาดกระตุ้นการยอมรับให้เกิดการซื้อเครื่องดับเพลิงเคมีไว้ประจำบ้าน บริษัทผู้ผลิตจัดจำนวนอุปกรณ์การดับเพลิงควรคำนึงถึงคุณภาพของผลิตภัณฑ์ของตนเองสร้างภาพพจน์ที่ดีในตราหรือยี่ห้อของเครื่องดับเพลิงเคมี เพื่อให้ผู้บริโภคใช้เป็นปัจจัยในการตัดสินใจซื้อ บริษัทผู้ผลิตจัดจำหน่ายสามารถใช้ราคาในการส่งเสริมการขายในการขายตลาดเครื่องดับเพลิงเคมีสำหรับที่อยู่อาศัยได้
Other Abstract: The study of the marketing and consumer’s attitude towards fire-extinguisher for residences in Bangkok Metropolitan area is very interesting. Due to the price of land which is getting higher and higher, especially in Bangkok, so the newly built building are higher, mostly more than 10 stories. But the ability to put out fire by the police Fire Department is only up to 10th floor. Accidences form fire happen everyday and they cause great damage to life and property. The study is made interviewing the distributor, fire extinguishers which are selling today, 70% are locally produced, less than 30% are imported from abroad. The most popular type of the fire-extinguisher is the dry chemical, which is about 80% of all types. The marketing is very competitive, especially about prices. There has been no quality control by the government. The distributors are less interested in residential consumers, but are more interested in big business, factories and government agencies. There has been less sale promotion in this business. In the study of consumers’ attitudes by questionnaire in Bangkok Metropolitan, the results show that most of consumers accept that it is necessary to have fire-extinguishers for their residences. Most of consumers, include the consumers who already have fire-extinguishers and the consumers who plan to purchase fire-extinguishers, have very little knowledge about them. Most of the consumers, who already have fire-extinguishers have a dry chemical type, size 6-10 pounds, price 601-1,000 baht and purchased from personal selling. The consumers, who plan to buy fire-extinguishers mostly select, dry chemical type, size 6-10 pounds, price 200-500 baht. They plan to purchase at the fire-extinguisher shop. Both type of consumers care about the quality. All consumers accepts that price is the most important factor in purchasing the fire-extinguisher. From the findings, the author suggest that manufacturers and distributors of the fire-extinguisher should get the government to pay attention in the area and help in making handbook, which contain the knowledge of a fire-extinguisher about quality, type, efficiency, and method to use. This will stimulate people’s interest in having a fire-extinguisher in their houses. The manufacturers and the distributors should be interested in residential consumers by using the marketing mix to motivate consumers to accept and to purchase fire-extinguishers for their houses. They should to be interested in quality of their fire-extinguishers. The manufacturer should build up the good brand image, so consumers can use this factor to decide in purchasing fire-extinguishers. They are able to use the price promotion to extend marketing to resident area for fire-extinguishers.
Description: วิทยานิพนธ์ (พณ.ม.)--จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2526
Degree Level: ปริญญาโท
URI: http://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/27624
ISBN: 9745621544
Type: Thesis
Appears in Collections:Grad - Theses

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
Somchai_Ti_front.pdf606.05 kBAdobe PDFView/Open
Somchai_Ti_ch1.pdf529.39 kBAdobe PDFView/Open
Somchai_Ti_ch2.pdf939.82 kBAdobe PDFView/Open
Somchai_Ti_ch3.pdf861.17 kBAdobe PDFView/Open
Somchai_Ti_ch4.pdf3.48 MBAdobe PDFView/Open
Somchai_Ti_ch5.pdf4.73 MBAdobe PDFView/Open
Somchai_Ti_back.pdf404.28 kBAdobe PDFView/Open


Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.