Please use this identifier to cite or link to this item: https://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/40628
Title: การตรวจพิสูจน์ยีนที่ควบคุมการสร้างพิษเอนเทอโรท็อกซินของเชื้อสตาฟฟิโลคอคคัส ออเรียสที่เพาะแยกได้จากแหนมหมู
Other Titles: Identification of Enterotoxin Encoding Genes of Staphylococcus aureus Isolated from Thai-Style Fermented Pork Sausage (Nham-mhoo)
Authors: พงศ์ธร พุ่มแตงอ่อน
Advisors: ศุภชัย เนื้อนวลสุวรรณ
รุ่งทิพย์ ชวนชื่น
Other author: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, คณะสัตวแพทยศาสตร์
Advisor's Email: Suphachai.N@Chula.ac.th
rchuanchuen@yahoo.com
Subjects: เอนเทอโรท็อกซิน
สตาฟีย์โลค็อกคัสออเรียส
การปนเปื้อนในอาหาร
แหนมหมู
Food contamination
Staphylococcus aureus
Issue Date: 2550
Publisher: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
Abstract: การศึกษาครั้งนี้ได้ทำการเพาะแยก S. aureus เชิงปริมาณแบบ MPN จากแหนมหมูจำนวน 90 แท่ง จากการศึกษาพบว่า มีความชุกของการปนเปื้อน S. aureus ช่วงเดือนมิถุนายนถึงสิงหาคม 2549 สูงถึงร้อยละ 45.56 และมีปริมาณการปนเปื้อนอยู่ตั้งแต่ 2 จนถึงมากกว่า 16,000 MPN ต่อกรัมแหนมหมู ศึกษาการปรากฏของยีนที่ควบคุมการสร้าง classical SEs ของ S. aureus ที่เพาะแยกได้จากแหนมหมู จำนวน 155 isolates ด้วยเทคนิค multiplex PCR พบการปรากฏของยีน classical enterotoxin encoding genes จำนวน 29 ตัวอย่าง (ร้อยละ18.71) ซึ่งพบยีนเหล่านี้ได้ทั้งยีนเดียว (ร้อยละ 13.55) หรือ 2 ยีน (ร้อยละ 5.16) เท่านั้น โดยพบยีน sec มากที่สุด (ร้อยละ 11.61) รองลงมาคือ ยีน sea ร่วมกับยีน sec (ร้อยละ 5.16), ยีน sea (ร้อยละ 1.29)และยีน seb (ร้อยละ 0.65) ตามลำดับ แต่ไม่พบของยีน sed และยีน see เลย จากการวิเคราะห์ทางสถิติพบว่า S. aureus ที่มีการปรากฏของยีนที่ควบคุมการสร้าง classical SEs มีความสัมพันธ์กับการสร้าง classical SEs อย่างมีนัยสำคัญ (p<0.01) นอกจากนี้ผลการศึกษาความหลากหลายทางพันธุกรรมของ S. aureus ที่เพาะแยกจากแหนมหมูด้วยเทคนิค rep-PCR พบว่าจัดกลุ่มได้ 27 กลุ่ม ที่ค่า similarity 90% และมีการกระจายของยีนที่ควบคุมการสร้างสารพิษใน 13 กลุ่ม ซึ่ง classical SEs encoding genes นี้มีความเป็นไปได้ที่จะถ่ายทอดสู่ S. aureus อื่นได้ ดังนั้นผู้บริโภคที่บริโภคแหนมหมูนั้นมีโอกาสที่จะได้รับ S. aureus ที่มีการปรากฏของยีนที่ควบคุมการสร้าง classical SEs นี้เป็นอันตรายต่อผู้บริโภคได้เนื่องจากมีโอกาสสร้าง SEs ที่ก่อให้เกิดโรคอาหารเป็นพิษได้ ซึ่งอาจจะสร้าง SEs ปนเปื้อนในแหนมหมูได้
Other Abstract: The aims of this study were to describe proportion of classical SEs encoding gene of S. aureus, to correlate between classical SEs encoding gene of S. aureus and SEs productions, and to determine genetic diversity of S. aureus isolated from Nham-mhoo. The number of Nham mhoo in this study was 90 samples. The prevalence of S. aureus in Nham-mhoo during June- August 2006 was 45.56% and concentrations were between 2 and more than 16,000 MPN per gram. The result of this study showed that percentage of classical SEs encoding genes 18.71 (29/155). From this study, sec was the dominant gene (11.61%) which was followed by sea and sec (5.16%), sea (1.29%) and seb (0.65%), respectively. The presence of classical SEs encoding gene significantly correlated with classical SEs production (p < 0.01). In addition, genetic diversity of S. aureus isolated from Nham-mhoo was categorized into 27 clusters. While classical SEs encoding gene was categorized into 13 clusters. Higher concentration of S. aureus in Nham-mhoo was associated with higher genetic diversity in terms of pattern cluster. These results indicated that S. aureus isolated from Nham-mhoo harbored classical SEs encoding genes and these isolated are likely to be enterotoxigenic.
Description: วิทยานิพนธ์(วท.ม.)--จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2550
Degree Name: วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต
Degree Level: ปริญญาโท
Degree Discipline: สัตวแพทยสาธารณสุข
URI: http://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/40628
URI: http://doi.org/10.14457/CU.the.2007.611
metadata.dc.identifier.DOI: 10.14457/CU.the.2007.611
Type: Thesis
Appears in Collections:Vet - Theses

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
Pongthorn_Pu.pdf2.32 MBAdobe PDFView/Open


Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.