ความสามารถในการอุ้มน้ำมันและฤทธิ์ในการต้านอนุมูลอิสระของผลิตภัณฑ์ผงเมล็ดแมงลัก

ศจี น้อยตั้ง; ศรินทิพ สุกใส; เรืองวิทย์ สว่างแก้ว; วีระเดช สุขเอียด

Please use this identifier to cite or link to this item: https://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/78922

Title:	ความสามารถในการอุ้มน้ำมันและฤทธิ์ในการต้านอนุมูลอิสระของผลิตภัณฑ์ผงเมล็ดแมงลัก
Other Titles:	Oil holding capacity and antioxidant activity of ocimum seed powder product
Authors:	ศจี น้อยตั้ง ศรินทิพ สุกใส เรืองวิทย์ สว่างแก้ว วีระเดช สุขเอียด
Other author:	จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. สถาบันวิจัยเทคโนโลยีชีวภาพและวิศวกรรมพันธุศาสตร์
Subjects:	แมงลัก(พืช) -- เมล็ด แอนติออกซิแดนท์
Issue Date:	2561
Publisher:	จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
Abstract:	งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อศึกษาคุณสมบัติต่างๆ ของผงเมล็ดแมงลัก ประกอบด้วย องค์ประกอบทางเคมี, ความสามารถในการอุ้มน้ำ และปริมาตรในการพองตัวเฉพาะ 2) เพื่อการทดสอบฤทธิ์ในการต้านอนุมูลอิสระของสารสกัดจากผงเมล็ดแมงลัก (Ocimum seed powder) ที่สกัดด้วยน้ำกึ่งวิกฤต และตัวทำละลายต่างๆ โดยงานวิจัยนี้ ผงเมล็ดแมงลักที่นำมาศึกษา มีความชื้น โปรตีน ไขมัน เส้นใยหยาบ เถ้า และคาร์โบไฮเดรต (ร้อยละ 6.41, 16.87, 5.23, 32.15, 7.06 และ 32.29 ตามลำดับ) รวมถึงมีคุณสมบัติเด่นคือมีปริมาตรในการพองตัว (189.03 มิลลิลิตร/กรัม) และความสามารถในการอุ้มน้ำ (71.02 กรัม/กรัม) ผลของความสามารถในการอุ้มน้ำมันของผงเมล็ดแมงลักเมื่อเปรียบเทียบกับผลิตภัณฑ์ต่างๆ ได้แก่ ไคโตซาน กัมอะราบิก แซนแทนกัม และกัวร์กัม พบว่า ไคโตซานและกัมอะราบิกให้ค่าความสามารถในการอุ้มน้ำมัน (2.94 กรัมน้ำมันต่อกรัมตัวอย่าง) สูงที่สุด โดยที่ผงเมล็ดแมงลักที่ยังไม่ผ่านการฆ่าเชื้อจะให้ค่าความสามารถในการอุ้มน้ำมัน (2.76 กรัมน้ำมันต่อกรัมตัวอย่าง) มากกว่าผงเมล็ดแมงลักที่ผ่านการฆ่าเชื้อแล้ว แซนแทนกรัม และ กัวร์กัม (2.65, 2.54 และ 2.38 กรัมน้ำมันต่อกรัมตัวอย่าง ตามลำดับ) เมื่อนำมาทำการสกัดสารด้วยวิธีดังนี้ น้ำกึ่งวิกฤต (121 องศาเซลเซียส นาน 60 นาที 3 รอบ) และตัวทำละลายต่างๆ (โดยใช้ความเข้มข้นกรดไฮโดรคลอริกร้อยละ 1 ในน้ำ และ กรดไฮโดรคลอริกร้อยละ 0, 0.1 และ 1 ในเอทานอลร้อยละ 95) พบว่าน้ำกึ่งวิกฤตสามารถสกัดสารพอลิแซ็กคาไรด์ (16.77 มิลลิกรัมกลูโคสต่อกรัมสารสกัด) และโปรตีน (ร้อยละ 7.01) ได้มากที่สุด รองลงมาคือ กรดไฮโดรคลอริกความเข้มข้นร้อยละ 1 ในน้ำ สามารถสกัดสารพอลิแซ็กคาไรด์ได้ 10.81 มิลลิกรัมกลูโคสต่อกรัมสารสกัด และโปรตีนได้ร้อยละ 6.22) และเมื่อนำสารสกัดที่ได้มาทดสอบฤทธิ์ในการต้านอนุมูลอิสระโดยวิธี ดีพีพีเอส พบว่าสารสกัดที่ได้จากการสกัดด้วยตัวทำละลายที่ความเข้มข้น กรดไฮโดรคลอริกร้อยละ 1 ในน้ำให้ค่าความเข้มข้นที่สารนั้นมีประสิทธิภาพในการยับยั้งที่ร้อยละ 50 (IC₅₀) ที่น้อยที่สุดคือ 0.002 มิลลิกรัมต่อมิลลิลิตร (2 พีพีเอ็ม) แต่การสกัดด้วยน้ำกึ่งวิกฤตทำให้ค่า IC₅₀ ของสารสกัดมากที่สุดคือ 4.405 มิลลิกรัมต่อมิลลิลิตร ในการวิเคราะห์ปริมาณสารประกอบฟีนอลิกทั้งหมด พบว่าการสกัดด้วยน้ำกึ่งวิกฤตให้ปริมาณสารประกอบฟีนอลิกมากที่สุด รองลงมาคือ การสกัดด้วยกรดไฮโดรคลอริกที่ความเข้มข้นร้อยละ 0.1 ในน้ำ (48.42 และ 41.03 มิลลิกรัมกรดแกลลิกต่อกรัมสารสกัด) ซึ่งสารประกอบฟีนอลิกเป็นสารที่สามารถละลายน้ำได้ดี
Other Abstract:	This aims of research 1) to study various properties of Ocimum seed powder contains proximate composition, water holding capacity, specific swelling volume and oil holding capacity. 2) to testing the antioxidant activity of crude extracts of Ocimum seed powder extracted by subcritical water and solvent extractions. In this research, Ocimum seed powder contains moisture (6.41%), protein (16.87%), fat (5.23%), crude fiber (32.15%), ash (7.06%), and carbohydrate (32.29%). The prominent characteristics of Ocimum seed powder are high specific swelling volume (189.03 ml/g) and high water holding capacity (71.02 g/g). The results of Ocimum seed powder's oil holding capacity, in comparison to other products, including chitosan, gum arabic, xanthan gum and guar gum reveals that chitosan and gum arabic yield the highest oil holding capacity rate (2.94 g oil/g) while non-sterile Ocimum seed powder yields higher oil holding capacity rate (2.76 g oil/g) than the steriled Ocimum seed powder (2.65 g oil/g), xanthan gum (2.54 g oil/g) and guar gum (2.38 g oil/g). After further extracting of the Ocimum seed powder by subcritical water extraction (SWE, at 121 degree Celsius, for 60 minutes, 3 times) and various solvents (1% hydrochloric acid in water; 0, 0.1, and 1% hydrochloric acid in 95% ethanol), it was found that SWE provided the highest amount of polysaccharide (16.77 mg glucose/g crude extract) and protein (7.01%). Then, followed by the extraction using 1% hydrochloric acid in water (10.81 mg glucose/g crude extract and protein of 6.22%). After testing the antioxidative properties of the extracts, using DPPH assay, it was found that the extracts from using 1% hydrochloric acid in water yield the lowest half maximal inhibitory concentration (IC₅₀) at 0.002 mg/ml (2 ppm). However, the SWE had the highest IC₅₀ of 4.405 mg/ml. Analyzing the total phenolic compound revealed that the SWE yields the highest amount of the total phenolic compound, at 48.42 mg GAE/g crude extract. The extraction by 0.1% of hydrochloric acid in 95% ethanol for extraction had the total phenolic compound of 41.03 mg GAE/g crude extract. Phenolic compounds explicit the hydrophilic property.
URI:	http://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/78922
Type:	Technical Report
Appears in Collections:	Biotec - Research Reports

Files in This Item:

File	Description	Size	Format
Biotec_Sajee Noitang_2019.pdf		2.02 MB	Adobe PDF	View/Open

Show full item record