Please use this identifier to cite or link to this item:
https://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/80448
Title: | การตรวจหาอนุภาคโลหะหนักที่ปนเปื้อนในเลือด ปัสสาวะ และเส้นผม ของผู้ประกอบอาชีพที่มีความเสี่ยงต่อการได้รับธาตุโลหะหนักในประเทศไทย |
Other Titles: | Study of metal particle contamination in blood, urine, hair of occupational-related population with high risk contamination in Thailand |
Authors: | อมรพันธุ์ เสรีมาศพันธุ์ |
Other author: | จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. คณะแพทยศาสตร์. ภาควิชากายวิภาคศาสตร์ |
Subjects: | เลือด -- ปริมาณโลหะหนัก ปัสสาวะ -- ปริมาณโลหะหนัก ผม -- ปริมาณโลหะหนัก |
Issue Date: | 2561 |
Publisher: | จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย |
Abstract: | การตรวจวัดปริมาณโลหะหนักและธาตุสารพิษในร่างกายของผู้ประกอบอาชีพที่มีความเสี่ยงได้รับธาตุโลหะหนักสะสมในร่างกายเป็นประเด็นสำคัญที่ควรตระหนักและให้ความสำคัญ ณ ปัจจุบันการตรวจวัดปริมาณโลหะหนักในร่างกายยังนิยมใช้สารน้ำอย่าง เลือด และ ปัสสาวะ ซึ่งบ่งชี้ปริมาณที่มีอยู่ในร่างกายและปริมาณที่ถูกขับออกจากร่างกาย โดยที่ผ่านมาการทดสอบหาธาตุโลหะหนักในเส้นผมเริ่มได้รับความสนใจและทำการศึกษากันมากขึ้น เนื่องจากเป็นตัวอย่างที่สามารถบ่งชี้การสะสมในร่างกายได้ดีกว่าตัวอย่างสารน้ำจากร่างกาย งานวิจัยนี้ได้ทำการศึกษาหาปริมาณโลหะหนัก 8 ธาตุ ประกอบด้วย สารหนู (As) ตะกั่ว (Pb) ปรอท (Hg) แคดเมียม (Cd) โครเมียม (Cr) แมงกานีส (Mn) โคบอลต์ (Co) และ นิกเกิล (Ni) จากตัวอย่างเลือด ปัสสาวะ และเส้นผมของกลุ่มอาสาสมัครที่ทำงานอยู่ในโรงพิมพ์ จำนวน 85 คน โดยตัวอย่างเลือด ปัสสาวะ และเส้นผมจะผ่านกระบวนการย่อยจนได้ตัวอย่างเป็นของเหลว และตรวจวัดปริมาณธาตุ ด้วยเครื่องมือตรวจวิเคราะห์ธาตุ Inductively Coupled Plasma Optical Emission Spectrometry (ICP-OES) ผลการศึกษาพบว่าตรวจพบโลหะหนักในตัวอย่างปัสสาวะและเส้นผม แต่ไม่พบธาตุโลหะหนักในเลือด ตรวจพบธาตุ Ni มากที่สุดทั้งในปัสสาวะและเส้นผม โดยพบอาสาสมัครที่มีธาตุ Ni ในปัสสาวะและเส้นผมร้อยละ 98.82 และ 94.12 ตามลำดับ ในปัสสาวะตรวจพบธาตุ Pb, Mn, Cd, Co, Cr และ Hg รองลงมาตามลำดับ ในเส้นผมพบจำนวนอาสาสมัครที่ตรวจพบธาตุ As, Cr, Cd และ Pb รองลงมาตามลำดับ และไม่พบความสัมพันธ์ระหว่างปริมาณโลหะหนักที่ตรวจพบในปัสสาวะและเส้นผม ทั้งนี้ยังต้องมีการศึกษาหาค่าอ้างอิงของประชากรที่อยู่ในสภาวะแวดล้อมปกติในบริเวณที่มีความใกล้เคียงกันในอนาคต เพื่อนำมาใช้อ้างอิงในการบ่งชี้ปริมาณการสะสมที่เป็นอันตรายต่อร่างกายต่อไป |
URI: | http://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/80448 |
Type: | Technical Report |
Appears in Collections: | Med - Research Reports |
Files in This Item:
File | Description | Size | Format | |
---|---|---|---|---|
Med_Amornpun Sereema_2018.pdf | 697.21 kB | Adobe PDF | View/Open |
Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.