Please use this identifier to cite or link to this item: https://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/17743
Full metadata record
DC FieldValueLanguage
dc.contributor.advisorอรัญญา ตุ้ยคำภีร์-
dc.contributor.authorอรฤทัย โฉมเฉิด-
dc.contributor.otherจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. คณะจิตวิทยา-
dc.date.accessioned2012-03-11T08:03:06Z-
dc.date.available2012-03-11T08:03:06Z-
dc.date.issued2552-
dc.identifier.urihttp://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/17743-
dc.descriptionวิทยานิพนธ์ (ศศ.ม.)--จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2552en
dc.description.abstractการวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาประสบการณ์การดูแลผู้ป่วย ความรู้สึกสอดคล้องกลมกลืนในชีวิต และความหมายในชีวิตของญาติผู้ดูแลผู้ป่วยมะเร็งระยะลุกลาม โดยใช้รูปแบบการวิจัยแบบผสานวิธีประเภทเชิงสามเส้าแบบเกิดพร้อมกัน กลุ่มตัวอย่างคือ ญาติผู้ดูแลผู้ป่วยมะเร็งระยะลุกลามที่รับการรักษาที่หอผู้ป่วยตึกว่องวานิชชั้น 3 5 6 7 และศูนย์เคมีบำบัดโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ จำนวน 200 ราย เครื่องมือวิจัยได้แก่ แบบสอบถามข้อมูลส่วนบุคคล มาตรวัดประสบการณ์การดูแลผู้ป่วย มาตรวัดความเครียดในการดูแลผู้ป่วย มาตรวัดความรู้สึกสอดคล้องกลมกลืนในชีวิต มาตรวัดความหมายในชีวิต มาตรวัดความมุ่งหวังในชีวิต และชุดคำถามสัมภาษณ์ ผลการวิจัยพบว่า 1) ญาติผู้ดูแลเพศหญิงจะมีประสบการณ์การดูแลผู้ป่วยมะเร็งระยะลุกลามไม่แตกต่างจากญาติผู้ดูแลที่เป็นเพศชาย 2) ญาติผู้ดูแลที่เป็นคู่สมรสจะมีประสบการณ์การดูแลผู้ป่วยมะเร็งระยะลุกลามแตกต่างจากญาติผู้ดูแลที่มีความสัมพันธ์ทางสายโลหิต 3) อายุ เพศ ระยะเวลาในการดูแลผู้ป่วย จำนวนชั่วโมงในการดูแลผู้ป่วยต่อวัน ประสบการณ์การดูแลผู้ป่วยอื่น ประเภทความสัมพันธ์ ประสบการณ์การดูแลผู้ป่วย และความเครียดในการดูแลผู้ป่วยมีความสัมพันธ์และทำนายความรู้สึกสอดคล้องกลมกลืนในชีวิตของญาติผู้ดูแลผู้ป่วยมะเร็งระยะลุกลามได้ร้อยละ 29 4) อายุ เพศ ระยะเวลาในการดูแลผู้ป่วย จำนวนชั่วโมงในการดูแลผู้ป่วยต่อวัน ประสบการณ์การดูแลผู้ป่วยอื่น ประเภทความสัมพันธ์ ประสบการณ์การดูแลผู้ป่วย ความเครียดในการดูแลผู้ป่วย และความรู้สึกสอดคล้องกลมกลืนในชีวิตมีความสัมพันธ์และทำนายความหมายในชีวิตของญาติผู้ดูแลผู้ป่วยมะเร็งระยะลุกลามได้ ร้อยละ 14 ทำนายความมุ่งหวังในชีวิตได้ร้อยละ 43 5) ข้อมูลเชิงคุณภาพได้จากการสัมภาษณ์ญาติผู้ดูแลผู้ป่วยมะเร็งระยะลุกลามจำนวน 7 ราย สนับสนุนข้อมูลเชิงปริมาณที่ว่าแม้ว่าจำนวนการปฏิบัติกิจกรรมการดูแลสูงแต่กลับมีความรู้สึกเป็นภาระและความรู้สึกกดดันทางด้านร่างกายและจิตใจอันเป็นผลจากการดูแลผู้ป่วยอยู่ในระดับต่ำ ทั้งนี้เป็นผลมาจากการที่ญาติผู้ดูแลมีความรู้สึกสอดคล้องกลมกลืนในชีวิตและมีความหมายในชีวิตสูง มองว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับตนเป็นความรับผิดชอบที่พึงกระทำและเป็นสิ่งที่ท้าทายความสามารถของตนen
dc.description.abstractalternativeThis study aimed to examine caregiving experience, sense of coherence, and meaning in life among family caregivers of patients with invasive cancers. The concurrent triangulation mixed methods design was employed. Participants were 200 caregivers of patients with invasive cancers at Wongwanich 3 5 6 7 and Daycare Center Chulalongkorn Hospital. Instruments were demographic questionnaire, Objective Burden Inventory, Caregiving Stress Appraisal, Sense of Coherence Scale, Meaning in Life Questionnaire, Purpose in Life Test and interview protocol. Findings revealed as follow: 1) There were no differences in caregiving experiences between female caregivers and male caregivers 2) Spouse caregivers reported higher numbers of caregiving experiences as compared to blood-relation caregivers 3) Age, sex, duration of caring, amount hours of caring per day, previous caregiving experiences, type of relation, objective caregiving experience, and caregiving stress were able to predict sense of coherence of family caregivers at 29 percent 4) Age, sex, duration of caring, amount hours of caring per day, previous caregiving experiences, type of relation, objective caregiving experience, caregiving stress, and sense of coherence were able to predict the meaning in life and purpose in life of family caregivers at 14 and 43 percent 5) The qualitative data from 7 participants were obtained through interview. Qualitative findings supported the quantitative results that although family caregivers had a high frequency of caring experiences but they did not feel a burden and caring stress because because they perceived the sense of coherence and meaning in life. The caregivers perceived caregiving situations as their responsibility and their capability had been challenged by the situationsen
dc.format.extent3510856 bytes-
dc.format.mimetypeapplication/pdf-
dc.language.isothes
dc.publisherจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยen
dc.relation.urihttp://doi.org/10.14457/CU.the.2009.878-
dc.rightsจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยen
dc.subjectผู้ดูแลen
dc.subjectมะเร็ง -- ผู้ป่วย -- การดูแลen
dc.titleประสบการณ์การดูแลผู้ป่วย ความรู้สึกสอดคล้องกลมกลืนในชีวิต และความหมายในชีวิตของญาติผู้ดูแลผู้ป่วยโรคมะเร็งระยะลุกลามen
dc.title.alternativeCaregiving experiences, sense of coherence, and meaning in life among family caregivers of patients with invasive cancersen
dc.typeThesises
dc.degree.nameศิลปศาสตรมหาบัณฑิตes
dc.degree.levelปริญญาโทes
dc.degree.disciplineจิตวิทยาการปรึกษาes
dc.degree.grantorจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยen
dc.email.advisorarunya.t@chula.ac.th-
dc.identifier.DOI10.14457/CU.the.2009.878-
Appears in Collections:Psy - Theses

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
onruithai_ch.pdf3.43 MBAdobe PDFView/Open


Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.