ปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจของผู้ปกครองในการเลือกที่เรียนกีฬาเทนนิส

อาภาวรรณ สังข์ศิริ

Please use this identifier to cite or link to this item: https://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/29266

Title:	ปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจของผู้ปกครองในการเลือกที่เรียนกีฬาเทนนิส
Other Titles:	Factors affecting the decision making of parents in selecting tennis teaching service
Authors:	อาภาวรรณ สังข์ศิริ
Advisors:	เทพประสิทธิ์ กุลธวัชวิชัย
Other author:	จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. คณะวิทยาศาสตร์การกีฬา
Advisor's Email:	tepprasit_g@chula.ac.th
Subjects:	เทนนิส เทนนิส -- การฝึก ผู้ฝึกกีฬาเทนนิส สิ่งอำนวยความสะดวกด้านกีฬา -- การตลาด พฤติกรรมผู้บริโภค ความพึงพอใจของผู้บริโภค
Issue Date:	2553
Publisher:	จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
Abstract:	การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยส่วนผสมทางการตลาดที่มีผลต่อการตัดสินใจของผู้ปกครองในการเลือกที่เรียนกีฬาเทนนิสและเปรียบเทียบความคิดเห็นเกี่ยวกับปัจจัยส่วนผสมทางการตลาดโดยจำแนกตามลักษณะทางประชากรศาสตร์ และจำแนกตามพฤติกรรมเกี่ยวกับกีฬาเทนนิส กลุ่มตัวอย่างแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มคือ ผู้ปกครองจำนวน 400 คน และนักวิชาการและผู้เชี่ยวชาญด้านกีฬาเทนนิส และด้านการจัดการกีฬา จำนวน 6 คน โดยใช้แบบสอบถามและแบบสัมภาษณ์เป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล และวิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติ โดยการแจกแจงความถี่ หาค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สถิติทดสอบ t-test และการวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว (One-way analysis of variance: ANOVA) กรณีพบความแตกต่าง จะวิเคราะห์ความแตกต่างเป็นรายคู่ด้วยวิธีของเชฟเฟ (Scheffe’s method) โดยกำหนดความมีนัยทางสถิติที่ระดับ.05 ผลการวิจัยพบว่า 1. ผู้ปกครองส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง มีอายุ 40-49 ปี มีระดับการศึกษาปริญญาตรี มีอาชีพประกอบธุรกิจส่วนตัว มีรายได้โดยเฉลี่ยต่อเดือน 50,000 บาทขึ้นไป มีสถานภาพสมรส เป็นบิดาหรือมารดาของผู้เรียน เคยเล่นเทนนิส มีนักเรียนในปกครองส่วนใหญ่เป็นเพศชาย มีนักเรียนในปกครองอายุ 8-12 ปี มีแนวทางส่งเสริมการเล่นกีฬาเทนนิสเพื่อสุขภาพ ให้นักเรียนได้เรียนเทนนิสมาเป็นระยะเวลา 1-2 ปี พานักเรียนมาเรียนเทนนิส 4-8 ครั้ง/เดือน วันที่พานักเรียนมาเรียนเทนนิสเป็นประจำคือวันเสาร์- อาทิตย์ พานักเรียนมาเรียนเทนนิสเป็นประจำ เวลา 15.00-18.00 น. ใช้เวลาอยู่ในที่เรียนเทนนิสครั้งละ 1-2 ชม. เสียค่าใช้จ่ายในการเรียนเทนนิสของนักเรียน ไม่เกิน 5,000 บาท/เดือน มีจุดประสงค์ให้นักเรียนได้เรียนกีฬาเทนนิสเพื่อให้มีสุขภาพพลานามัยที่แข็งแรง ผู้ที่มีอิทธิพลมากที่สุดที่ทำให้ตัดสินใจเลือกที่เรียนกีฬาเทนนิส คือ ตนเอง แหล่งข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับที่เรียนกีฬาเทนนิส คือ ญาติพี่น้อง/เพื่อน/คนรู้จัก 2. ปัจจัยส่วนผสมทางการตลาดที่มีผลต่อการตัดสินใจของผู้ปกครองในการเลือกที่เรียนกีฬาเทนนิสเกือบทุกด้านมีความสำคัญระดับมาก ได้แก่ ด้านกระบวนการ (X bar = 3.20) ด้านบุคลากร (X bar = 3.11) ด้านผลิตภัณฑ์ (X bar = 2.94) ด้านราคา (X bar = 2.92) ด้านลักษณะทางกายภาพ (X bar = 2.88) และด้านการส่งเสริมการตลาด (X bar = 2.51) ตามลำดับ ยกเว้น ด้านสถานที่/การจัดจำหน่าย มีความสำคัญระดับมากที่สุด (X bar = 3.27) 3. การเปรียบเทียบความคิดเห็นเกี่ยวกับปัจจัยส่วนผสมทางการตลาดที่มีผลต่อการตัดสินใจของผู้ปกครองจำแนกตาม เพศ อายุ และ ประสบการณ์ในการเล่นกีฬาเทนนิส พบว่า ไม่แตกต่างกัน 4. การเปรียบเทียบความคิดเห็นเกี่ยวกับปัจจัยส่วนผสมทางการตลาดที่มีผลต่อการตัดสินใจของผู้ปกครองจำแนกตาม ระดับการศึกษา อาชีพ รายได้เฉลี่ยต่อเดือน สถานภาพสมรส แนวทางส่งเสริมการเล่นกีฬาเทนนิส และรูปแบบที่เรียนกีฬาเทนนิสที่ใช้บริการ พบว่า แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
Other Abstract:	The purposes of this research were to study the marketing mix factors affecting the decision making of parents in selecting tennis teaching service and to compare the opinion towarded the affected factors. The samples were 400 parents of students who learned tennis in Bangkok Metropolitan. The questionnaire was used as survey tool and the statistics used to analyze data were frequency, percentage, mean, standard deviation, t-test and One-way Analysis of Variance (ANOVA). If the differences were found, it would be then analyzed by Scheffe’s method with the statistical significant level of .05. The results were as follow: 1. Most parents were female who were 40 – 49 years of age, held bachelors’ degree, owned personal business, and their personal monthly income was over 50,000 Baht. They were the student’s fathers or mothers and used to play tennis. Most of their children who were tennis students were male between 8 – 12 years old, and the parents way to encourage tennis playing were to let their children play tennis for health. They usually brought students to learn tennis on Saturday – Sunday between 15.00 – 18.00 p.m., and usually stayed at the tennis court for 1 – 2 Hrs./time. The fee for a tennis course was less than 5,000 Baht/month. The purpose of students tennis learning was for health. Parents were the most influential people in selecting tennis teaching service and the information channel was folk/friends/acquaintances. 2. The marketing mix factors affecting the decision making of parents in selecting tennis teaching service were at high level in almost every factor: Process (X[superscript ⁻] = 3.20), People (X[superscript ⁻] = 3.11), Product (X[superscript ⁻] = 2.94), Price (X[superscript ⁻] = 2.92), Physical Evidence (X[superscript ⁻] = 2.88) and Promotion (X[superscript ⁻] = 2.51), except for the Place factor which at the highest level (X[superscript ⁻] = 3.27). 3. The comparison of the opinion towarded the marketing mix factors affecting the decision making of parents in selecting tennis teaching service classified by sex, age, and experience with tennis, found no any differences. 4. The comparison of the opinion towarded the marketing mix factors affecting the decision making of parents in selecting tennis teaching service classified by education, occupation, personal monthly income, marital status, the way to encourage tennis playing and pattern of tennis teaching service, found significant differences at .05 level.
Degree Name:	วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต
Degree Level:	ปริญญาโท
Degree Discipline:	วิทยาศาสตร์การกีฬา
URI:	http://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/29266
URI:	http://doi.org/10.14457/CU.the.2010.1995
metadata.dc.identifier.DOI:	10.14457/CU.the.2010.1995
Type:	Thesis
Appears in Collections:	Spt - Theses

Files in This Item:

File	Description	Size	Format
arphawan_su.pdf		5.18 MB	Adobe PDF	View/Open

Show full item record