Please use this identifier to cite or link to this item:
https://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/48604
Title: | ผลของการปรึกษาเชิงจิตวิทยาแบบกลุ่มแบบพิจารณาเหตุผล และอารมณ์ต่อการเพิ่มการรับรู้ความสามารถของตนของบุคคลที่สูญเสียแขนขา |
Other Titles: | The effect of group rational-emotive therapy on increasing self-efficacy of the amputee |
Authors: | วันเพ็ญ อัศวศิลปกุล |
Advisors: | สุภาพรรณ โคตรจรัส |
Other author: | จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. บัณฑิตวิทยาลัย |
Advisor's Email: | "ไม่มีข้อมูล" |
Subjects: | คนพิการ Amputees การให้คำปรึกษาแบบกลุ่ม ความสามารถในตนเอง การรับรู้ตนเอง จิตบำบัดแบบพิจารณาเหตุผลและอารมณ์ |
Issue Date: | 2539 |
Publisher: | จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย |
Abstract: | การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลของการปรึกษาเชิงจิตวิทยาแบบกลุ่มแบบพิจารณาเหตุผลและอารมณ์ต่อการเพิ่มการรับรู้ความสามารถของตนของบุคคลที่สูญเสียแขนขา โดยมีสมมติฐานการวิจัย คือ (1) หลังการทดลอง บุคคลที่สูญเสียแขนขาที่ได้รับการปรึกษาเชิงจิตวิทยาแบบกลุ่มจะมีคะแนนการรับรู้ความสามรถโดยทั่วไปของตน และคะแนนการรับรู้ความสามารถเฉพาะของตนสูงกว่าคะแนนของกลุ่มควบคุม (2) หลังการทดลองบุคคลที่สูญเสียแขนขาที่ได้รับการปรึกษาเชิงจิตวิยาแบบกลุ่มจะมีคะแนนการรับรู้ความสามารถโดยทั่วไปของตนและคะแนนการรับรู้ความสามารถเฉพาะของตนสูงกว่าก่อนเข้าร่วมกลุ่ม การวิจัยนี้เป็นการวิจัยเชิงทดลองแบบมีกลุ่มควบคุมทดสอบก่อนและหลังการทดลอง (Pretest – Posttest Control Group Design) กลุ่มตัวอย่างเป็นบุคคลที่สูญเสียแขนขาที่อยู่ในช่วงได้รับการฟื้นฟูสมรรถภาพและฝึกอาชีพที่ศูนย์ฟื้นฟูสมรรถภาพคนงาน จำนวน 16 คน ซึ่งสุ่มจากบุคคลที่สูญเสียแขนขาที่ได้คะนนจากแบบวัดการรับรู้ความสามารถโดยทั่วไปของตน และแบบวัดการรับรู้ความสามารถเฉพาะของตนต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 0.5 ของค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สุ่มเป็นกลุ่มทดลอง 8 คน และกลุ่มควบคุม 8 คน กลุ่มทดลองได้เข้ารับการปรึกษาเชิงจิตวิทยาแบบกลุ่มแบบพิจารณาเหตุผลและอารมณ์เป็นเวลา 5 สัปดาห์ สัปดาห์ละ 2 ครั้ง ครั้งละ 2 ชั่วโมง รวม 20 ชั่วโมง โดยผู้วิจัยเป็นผู้นำกลุ่มเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบวัดการรับรู้ความสามารถโดยทั่วไปของตน (The General Self – efficacy) ซึ่งพัฒนามาจากแบบวัดการรับรู้ความสามารถโดยทั่วไปของตนของเชอเรอร์และคณะ และแบบวัดการรับรู้ความสามารถเฉพาะของตน (The Specific Self – efficacy) ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น วิเคราะห์ข้อมูลด้วยการทดสอบความแตกต่างของค่าเฉลี่ยของคะแนนการรับรู้ความสามารถของตนด้วยวิธีการทดสอบค่าที (t – test) ผลการวิจัยพบว่า (1) หลังการทดลองบุคคลที่สูญเสียแขนขาที่เข้ารับการปรึกษาเชิงจิตวิทยาแบบกลุ่มมีคะแนนการรับรู้ความสามารถโดยทั่วไปของตนและคะแนนการรับรู้ความสามารถเฉพาะของตนสูงกว่าบุคคลที่สูญเสียแขนขาที่ไม่ได้เข้ากลุ่มอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 2. หลังการทดลองบุคคลที่สูญเสียแขนขาที่เข้ารับการปรึกษาเชิงจิตวิทยาแบบกลุ่มมีคะแนนการรับรู้ความสามารถโดยทั่วไปของตนและคะแนนการรับรู้ความสามารถเฉพาะของตนสูงกว่าก่อนเข้ากลุ่มอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 |
Other Abstract: | The purpose of this research was to study the effect of group rational emotive therapy on increasing self-efficacy of the amputee. The hypotheses were that were that (1) the posttest scores on the general self – efficacy and the specific self – efficacy of the experimental group would be higher than the posttest scores of the control group. (2) the posttest scores on the general self-efficacy and the specific self-efficacy of the experimental group would be higher than its pretest scores. The research design was the pretest-posttest control group design. The sample was 16 amputees who were n the rehabilitation and vocational training stage at the Industrial Rehabilitation Center randomly selected from the amputees who scored 0.5 standard deviation below the mean on the general self-efficacy and the specific self-efficacy. They were randomly assigned to an experimental group, and a control group, each group comprising 8 amputees. The experimental group participated in a group rational-emotive therapy program conducted by the researcher, for two hours twice a week over a period of 5 weeks altogether for approximately 20 hours. The instrument used in this study were the General Self-efficacy developed from the Sherer et al.'s General Self-efficacy and the Specific Self-efficacy developed by the researcher. The t-test was ultilized for data analysis. The results indicated that : (1) The posttest scores on the general self-efficacy and the specific self-efficacy of the experimental group are higher than the posttest scores of the control group at .01 level of significance. (2) The posttest scores on the general self-efficacy and the specific self-efficacy of the experimental group are higher than its pretest scores at .01 level of significance. |
Description: | วิทยานิพนธ์ (ศศ.ม.)--จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2539 |
Degree Name: | ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต |
Degree Level: | ปริญญาโท |
Degree Discipline: | จิตวิทยาการปรึกษา |
URI: | http://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/48604 |
ISBN: | 9746357263 |
Type: | Thesis |
Appears in Collections: | Grad - Theses |
Files in This Item:
File | Description | Size | Format | |
---|---|---|---|---|
Wanpen_as_front.pdf | 1.34 MB | Adobe PDF | View/Open | |
Wanpen_as_ch1.pdf | 8.54 MB | Adobe PDF | View/Open | |
Wanpen_as_ch2.pdf | 3.82 MB | Adobe PDF | View/Open | |
Wanpen_as_ch3.pdf | 658.48 kB | Adobe PDF | View/Open | |
Wanpen_as_ch4.pdf | 2.03 MB | Adobe PDF | View/Open | |
Wanpen_as_ch5.pdf | 712.92 kB | Adobe PDF | View/Open | |
Wanpen_as_back.pdf | 10.78 MB | Adobe PDF | View/Open |
Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.