Please use this identifier to cite or link to this item: https://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/58547
Full metadata record
DC FieldValueLanguage
dc.contributor.authorมนทกานติ์ เชื่อมชิต-
dc.contributor.authorนุชนาฏ หวนนากลาง-
dc.contributor.authorอรอุมา ซองรัมย์-
dc.contributor.otherจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์การแพทย์-
dc.date.accessioned2018-04-19T07:53:58Z-
dc.date.available2018-04-19T07:53:58Z-
dc.date.issued2549-
dc.identifier.urihttp://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/58547-
dc.description.abstractการวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างรูปแบบการฝึกอบรมบุคลากรวิชาชีพที่ทำงานเกี่ยวข้องกับผู้ประสบปัญหาความรุนแรง ให้มีความรู้ ความเข้าใจ และเจตคติที่ถูกต้องเหมาะสมกับปัญหาความรุนแรง โดยคำนึงถึงมิติหญิงชาย ตลอดจนเพื่อให้เกิดเครือข่ายการทำงานร่วมกันแบบสหวิชาชีพ นำไปสู่การแก้ปัญหาอย่างรอบด้าน โดยผ่านการจัดการประชุมระดมความคิดเห็นจากบุคลากรวิชาชีพ เพื่อให้ทราบถึงสถานการณ์ปัญหาความรุนแรงในสังคมไทย รวมทั้งปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ ของแต่ละสาขาวิชาชีพ เพื่อได้ผลสรุปของแนวทางความคิดเห็นที่หลากหลาย ซึ่งจะนำไปเป็นข้อมูลพื้นฐานในการจัดประชุมผู้เชี่ยวชาญสำหรับการพัฒนาหลักสูตรการอบรมบุคลากรวิชาชีพต่อไป ผลการศึกษาพบว่า หลักสูตรการฝึกอบรมด้านปัญหาความรุนแรงทางเพศในมิติหญิงชายควรมีเนื้อหาการอบรมครอบคลุมประเด็นดังต่อไปนี้ 1. ทฤษฎีสตรีนิยม 2. สุขภาพและความรุนแรง 3. การวิจัย เพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหาความรุนแรง 4. กระบวนการทางกฎหมาย และกระบวนการดูแล Case หลังจากการแจ้งความ 5. ทักษะเกี่ยวกับการให้การปรึกษาเบื้องต้น 6. การดูแลตนเองของผู้ให้การปรึกษา 7. การศึกษาดูงานนอกสถานที่ 8. การแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างวิชาชีพ ทั้งนี้เพื่อนำไปสู่ความรู้ ความเข้าใจ และการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบปัญหาความรุนแรงได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไปในอนาคต ผลที่ได้รับจากการอบรม คือ บุคลากรวิชาชีพมีความตระหนักและความละเอียดอ่อนต่อปัญหาความรุนแรงในสังคมมากขึ้น ตลอดจนมีความเข้าใจระหว่างสหวิชาชีพ ซึ่งเป็นเสียงสะท้อนของผู้เข้าร่วมอบรมที่จะสานต่อให้เกิดความร่วมมือร่วมใจของสหวิชาชีพ เพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหาความรุนแรงในสังคมไทยร่วมกันen_US
dc.description.abstractalternativeThe objective of this research was: 1) to develop a gender-based training model on sexual violence issues for government officers (i.e. police, prosecutors, medical practitioners) who work closely with victims of sexual violence; 2) to provide government officers with the knowledge, understanding and skills needed to work in a gender sensitive manner on issues of sexual violence with a multidisciplinary team. A multidisciplinary brainstorming meeting was organized. Experts attending the meeting created a list of key topics that are necessary for the development of a successful training course. The eight key topics that should be included in the training course are: 1) feminist theory; 2) links between health and violence; 3) research on steps to solve violence problems; 4) legal processes and how to care for the victim after they notify the police; 5) basic counseling skills; 6) self-care for counselors working with victims; 7) site visits to hospital, police station and organization working with victims; 8) opportunities to share opinions between individuals from multiple disciplines. The inclusion of these eight topics is necessary to improve knowledge about sexual violence issues, to develop the skills needed to work with victims in a respectful manner, and to create effective solutions. Participants who attend this training course will leave with increased gender sensitivity and a multidisciplinary understanding of sexual violence issues.en_US
dc.description.sponsorshipได้รับเงินอุดหนุนงบประมาณแผ่นดินประจำปี 2548-2549 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยen_US
dc.language.isothen_US
dc.publisherจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยen_US
dc.rightsจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยen_US
dc.subjectความรุนแรงต่อสตรีen_US
dc.subjectความรุนแรง -- วิจัยen_US
dc.subjectเหยื่อที่ถูกทารุณทางเพศen_US
dc.subjectอาชญากรรมทางเพศen_US
dc.subjectบุคลากรทางการแพทย์ -- การฝึกอบรมในงานen_US
dc.subjectตำรวจ -- การฝึกอบรมในงานen_US
dc.titleการสร้างรูปแบบการฝึกอบรมด้านปัญหาความรุนแรงทางเพศในมิติหญิงชาย : รายงานฉบับสมบูรณ์en_US
dc.title.alternativeTraining model for sexual and violence problems based on genderen_US
dc.typeTechnical Reporten_US
dc.email.authorMontakarn.Ch@Chula.ac.th-
dc.email.authorNuchanad.H@Chula.ac.th-
dc.email.authorOnuma.Z@Chula.ac.th-
Appears in Collections:Health - Research Reports

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
Montakarn Ch_b17529608.pdf18.95 MBAdobe PDFView/Open


Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.