Please use this identifier to cite or link to this item:
https://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/67667
Title: | คำซัดทอดของผู้มีส่วนร่วมในการกระทำความผิดคดีอาญา |
Other Titles: | Implication of accomplice in criminal case |
Authors: | คัคนางค์ สาครมณีรัตน์ |
Advisors: | มุรธา วัฒนะชีวะกุล |
Other author: | จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. คณะนิติศาสตร์ |
Advisor's Email: | ไม่มีข้อมูล |
Subjects: | การซัดทอด ความผิดทางอาญา พยานบุคคล การกระทำความผิดคดีอาญา -- คำซัดทอด ความคุ้มกัน -- กฎหมายลักษณะพยาน พยานหลักฐาน -- คำซัดทอด |
Issue Date: | 2542 |
Publisher: | จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย |
Abstract: | วิทยานิพนธ์ฉบับนี้ได้ศึกษาถึงความหมายของคำซัดทอด ตลอดจนแนวคิดในการรับฟังคำซัดทอดของผู้มีส่วนร่วมในการกระทำความผิดคดีอาญา คำซัดทอดนั้นหมายถึง ถ้อยคำของผู้ร่วมกระทำผิดในคดีอาญาที่กล่าวข้อความอันเป็นผลร้ายแก่ผู้ร่วมกระทำผิดด้วยกัน เกี่ยวกับการกระทำผิดนั้น ในแนวคิดดั้งเดิมของประเทศอังกฤษมีแนวคิดว่าไม่จำเป็นต้องมีการรับฟังคำซัดทอด เนื่องจากรัฐมีศักดิ์ศรีพอที่จะไม่ต้องใช้พยานหลักฐานที่มาจากผู้ร่วมกระทำผิด และรัฐยังมีความสามารถพอที่จะหาพยานหลักฐานอื่นมาลงโทษจำเลยได้ ต่อมาแนวคิดดังกล่าวเริ่มเปลี่ยนแปลงไป เนื่องจากมีความจำเป็นในเรื่องนโยบายของอาญาที่ต้องรับฟังคำซัดทอดของผู้ร่วมกระทำผิดเนื่องจากไม่สามารถหาพยานหลักฐานอื่นใดมาลงโทษจำเลยได้นอกจากพยานหลักฐานที่ได้มาจากผู้ร่วมกระทำผิดด้วยกัน ในแนวคำพิพากษาฎีกาของไทยวินิจฉัยว่า คำซัดทอดของผู้ร่วมกระทำผิดรับฟังได้แต่มีน้ำหนักน้อยและจะพิพากษาลงโทษจำเลยได้จะต้องมีพยานหลักฐานอื่นมาประกอบ ผู้เขียนมีความเห็นว่าแนววินิจฉัยของศาลนั้น มีความเหมาะสมแล้วเนื่องจากการจะลงโทษจำเลยได้ศาลควรจะแน่ใจว่าจำเลยได้เป็นผู้กระทำความผิดจริง ดังนั้น การมีพยานหลักฐานอื่นมาประกอบให้เห็นว่าจำเลยเป็นผู้กระทำความผิดจริงจึงมีความจำเป็นและเป็นการเหมาะสมแล้วที่จะต้องมีพยานหลักฐานอื่นมาประกอบกับคำซัดทอดของผู้ร่วมกระทำผิด ในคดีความผิดบางประเภทที่การประกอบอาชญากรรมมีการกระทำความผิดที่สลับซับซ้อน ยากที่จะหาพยานหลักฐานอื่นใดมาลงโทษจำเลยได้ ดังเช่นคดีที่เกี่ยวกับองค์กรอาชญากรรม ผู้เขียนมีความเห็นว่าควรจะได้มีการนำหลักกฎหมายในเรื่องการให้ความคุ้มกัน (Immunity) แก่พยาน ซึ่งมีหลักฐานว่ารัฐจะไม่ฟ้องคดีแก่พยานรัฐอันเนื่องมาจากคำให้การของเขามาใช้ในประเทศไทย ซึ่งจะทำให้พยานผู้ร่วมกระทำผิดเบิกความได้โดยไม่ต้องเกรงกลัวว่าจะถูกฟ้องร้องคดีในภายหลัง จึงทำให้คำซัดทอดของพยานผู้ร่วมกระทำผิดมีความน่าเชื่อถือ |
Other Abstract: | This thesis studies the meaning of implications and conceptions of admissibility of implication of accomplice. Implication means words of accomplices in criminal case to adversely affect other accomplice in the crime. In the past, legal concept in England was that admission of implications was not necessary because the Crown, due to its status, should not use evidence derived from the accomplices and the crown could and should find any other evidence to convict the defendant. Later on the concept has changed because of necessity in criminal policy. Implications of accomplice, is being admitted for lack of any evidence to convict the accomplicing accused. The Thai Supreme Court precedent indicates that implication of accomplice is admissible but has less creditability, and the accused cannot be convicted unless there is also other evidence aginst him. In my opinion, the Thai precedent is suitable because to convict an accused the judge should be certain that the accused has actually commited the crime. An corroborated evidence must there love be in place apart from the implication of his or her. In certain offences where commission of crime is rather complicated, and it is very difficult to find any piece of evidence to prove to convict the defendant e.g. a case related to organized crime. In my opinion, one should apply the principle on immunity, to protect witness. The principle of immunity requires the state to let free those accomplices who implicate his accomplices this will encourage the accomplice to stand as a witness without any fear of being indicted. Then, the testimony of the state witness would be credulous. |
Description: | วิทยานิพนธ์ (น.ม.)--จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2542 |
Degree Name: | นิติศาสตรมหาบัณฑิต |
Degree Level: | ปริญญาโท |
Degree Discipline: | นิติศาสตร์ |
URI: | http://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/67667 |
ISBN: | 9743344381 |
Type: | Thesis |
Appears in Collections: | Law - Theses |
Files in This Item:
File | Description | Size | Format | |
---|---|---|---|---|
Kakkanang_sa_front_p.pdf | หน้าปก สารบัญ และบทคัดย่อ | 891.21 kB | Adobe PDF | View/Open |
Kakkanang_sa_ch1_p.pdf | บทที่ 1 | 693.03 kB | Adobe PDF | View/Open |
Kakkanang_sa_ch2_p.pdf | บทที่ 2 | 1.61 MB | Adobe PDF | View/Open |
Kakkanang_sa_ch3_p.pdf | บทที่ 3 | 1.99 MB | Adobe PDF | View/Open |
Kakkanang_sa_ch4_p.pdf | บทที่ 4 | 1.91 MB | Adobe PDF | View/Open |
Kakkanang_sa_ch5_p.pdf | บทที่ 5 | 1.03 MB | Adobe PDF | View/Open |
Kakkanang_sa_back_p.pdf | บรรณานุกรมและภาคผนวก | 693.12 kB | Adobe PDF | View/Open |
Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.