Please use this identifier to cite or link to this item: https://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/78464
Full metadata record
DC FieldValueLanguage
dc.contributor.advisorอมรา พงศาพิชญ์-
dc.contributor.authorเก่งกิจ กิติเรียงลาภ-
dc.contributor.otherจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. คณะรัฐศาสตร์-
dc.coverage.spatialไทย-
dc.date.accessioned2022-04-25T02:18:11Z-
dc.date.available2022-04-25T02:18:11Z-
dc.date.issued2551-
dc.identifier.urihttp://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/78464-
dc.descriptionวิทยานิพนธ์ (ร.ด.)--จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2551en_US
dc.description.abstractงานวิจัยชิ้นนี้มีเป้าหมายเพื่ออธิบายความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองของสังคมการเมืองไทยนับตั้งแต่เหตุการณ์พฤษภาประชาธรรมในปี ๒๕๓๕ จนถึงการทำรัฐประหารในเดือนกันยายน ปี ๒๕๔๙ ผลการวิจัยพบว่า ความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองไทยหลังปี ๒๕๓๕ ทั้งหมดล้วนเกิดขึ้นจากปฏิสัมพันธ์ทางอำนาจระหว่างกลุ่มพลังทางสังคม ๓ กลุ่มหลัก คือ สถาบันพระมหากษัตริย์ นายทุนนักธุรกิจ และขบวนการภาคประชาชน โดยภายหลังจากวิกฤตเศรษฐกิจในปี ๒๕๔๐ สถาบันพระมหากษัตริย์สามารถสถาปนาพระราชอำนาจนำเหนือกลุ่มพลังทางสังคมอื่นๆทั้งหมด โดยสถาบันพระมหากษัตริย์ได้กลายมาเป็นผู้มีอำนาจนำสูงสุดของกลุ่มก้อนทางประวัติศาสตร์ (historic bloc) ที่เรียกว่า “กลุ่มก้อนทางประวัติศาสตร์แบบชุมชน-ชาตินิยมที่มีพระมหากษัตริย์เป็นผู้นำ” ซึ่งเป็นกลุ่มก้อนที่มีลักษณะข้ามชนชั้น (cross-class alliance) และผูกโยงกันผ่านวาทกรรมชุมชนนิยม ชาตินิยม และเศรษฐกิจพอเพียง ส่งผลให้การเคลื่อนไหวทางการเมืองของขบวนการภาคประชาชน และการขึ้นสู่อำนาจในปี ๒๕๔๔ และการเสื่อมอำนาจของรัฐบาลพรรคไทยรักไทยในปี ๒๕๔๙ จะไม่สามารถเกิดขึ้นได้หากปราศจากการรับรองหรือสร้างความชอบธรรมจากพระราชอำนาจเหนือกลุ่มก้อนทางประวัติศาสตร์ที่ประกอบไปด้วยกลุ่มพลังของสถาบันพระมหากษัตริย์ และ กลุ่มพลังของขบวนการภาคประชาชนen_US
dc.description.abstractalternativeMy finding is that since 1992 there have been three major social forces (the monarchy, new capitalists and people’s movements) shaping dynamics and changes in the state and civil society in Thailand. More significantly, since the 1997 economic crisis, the monarchy as the most powerful political institution has established its royal hegemony by assimilating and allying with various groups of the other social forces such as public intellectuals, political activists, NGOs, high-ranking bureaucrats, new generation capitalists and the state apparatuses. In this thesis, I propose to call this very establishing cross-class alliance, in Gramscian term, as “the nationalist-communitarian historic bloc with the leadership of the monarchy”. Ideologically, the historic bloc contains various discourses of different social classes such as nationalism, communitarianism, anti-capitalism, clean politics and self-sufficien economy. As a result of this establishment, the rise and fall of the Thai Rak Thai government could not take place without political and ideological supports from the historic bloc comprising the monarchy and people’s movements.en_US
dc.language.isothen_US
dc.publisherจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยen_US
dc.relation.urihttp://doi.org/10.14457/CU.the.2008.2151-
dc.rightsจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยen_US
dc.subjectไทย -- การเมืองและการปกครองen_US
dc.subjectกษัตริย์และผู้ครองนคร -- ไทยen_US
dc.subjectThailand -- Politics and governmenten_US
dc.subjectKings and rulers -- Thailanden_US
dc.titleการเมืองว่าด้วยการต่อสู้ทางชนชั้นในประเทศไทยจาก พ.ศ.2535 ถึง พ.ศ.2549en_US
dc.title.alternativePolitics of class struggle in Thailand from 1992 to 2006en_US
dc.typeThesisen_US
dc.degree.nameรัฐศาสตรดุษฎีบัณฑิต-
dc.degree.levelปริญญาเอก-
dc.degree.disciplineรัฐศาสตร์-
dc.degree.grantorจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยen_US
dc.identifier.DOI10.14457/CU.the.2008.2151-
Appears in Collections:Pol - Theses

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
4781901524_2551.pdf3.04 MBAdobe PDFView/Open


Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.