Please use this identifier to cite or link to this item: https://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/79034
Title: Removal efficiency of 0.3 to 4 millimeters microplastics in raw water via coagulation and flocculation process
Other Titles: ประสิทธิภาพการกำจัดไมโครพลาสติก ขนาด 0.3 ถึง 4 มิลลิเมตร ในน้ำดิบ ด้วยกระบวนการสร้างและรวมตะกอน
Authors: Paranee Wattanarojruang
Advisors: Vorapot Kanokkantapong
Other author: Chulalongkorn University. Faculty of Science
Subjects: Microplastics
Water -- Purification -- Coagulation
ไมโครพลาสติก
น้ำ -- การทำให้บริสุทธิ์ -- การรวมตะกอน
Issue Date: 2019
Publisher: Chulalongkorn University
Abstract: Microplastics (MPs) have attracted worldwide attention. MPs are gradually detected in freshwater and tap water. In terms of human health risks, MPs as contaminants represent a concern because they can be ingested and accumulated in the body. In this study, the removal efficiency of 0.3 – 4 mm MPs was investigated during traditional coagulation and flocculation processes using aluminum sulphate (alum) as a coagulant and anionic polyacrylamide (APAM) as a coagulant aid. Results showed that the optimum alum dose of 15 mg/L showed maximum turbidity removal efficiency (98.07±0.02%) in non-added MPs raw water. Whilst, 40 mg/L of alum was the optimum dose for highest turbidity removal efficiency (97.77±0.02%) in added MPs raw water and also greatest MPs removal efficiency (80.00±0.00%). After obtained the optimizing alum dose, APAM were added to enhance the removal efficiency of turbidity and MPs. 0.06 mg/L of APAM was the optimum dose for highest turbidity removal efficiency (97.88 ± 0.02%) and 0.04 mg/L was the optimum dose for maximum MPs removal efficiency (85± 0.00%). Based on this investigation, the MPs removal behaviors during coagulation and flocculation processes will have potential application in tap water treatment.
Other Abstract: ไมโครพลาสติกเป็นปัญหาที่กำลังได้รับความสนใจจากทั่วโลก ในปัจจุบันมีการตรวจพบ ไมโครพลาสติกในน้ำประปาและแหล่งน้ำจืดที่ใช้ในการผลิตน้ำประปาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ก่อให้เกิดความกังวลด้านสุขภาพเพราะไมโครพลาสติกสามารถถูกย่อยและสะสมอยู่ในร่างกายได้ ในงานนี้ได้ทำการศึกษาเกี่ยวกับประสิทธิภาพการกำจัดไมโครพลาสติกขนาด 0.3 ถึง 4 มิลลิเมตร ในน้ำดิบ ด้วยกระบวนการสร้างและรวมตะกอน โดยใช้สารส้มเป็นสารสร้างตะกอนและใช้โพลีอะคริลาไมด์ชนิดประจุลบ เป็นสารช่วยรวมตะกอน จากการศึกษาพบว่า การใช้ปริมาณสารส้ม 15 มิลลิกรัมต่อลิตร ให้ประสิทธิภาพในการกำจัดความขุ่นในน้ำดิบสูงสุดร้อยละ 98.07±0.02 ในขณะที่ต้องใช้ปริมาณสารส้ม 40 มิลลิกรัมต่อลิตร จึงให้ประสิทธิภาพในการกำจัดความขุ่นในน้ำดิบที่มีไมโครพลาสติกผสมอยู่ สูงสุดร้อยละ 97.77±0.02 และ ที่ปริมาณสารส้ม 40 มิลลิกรัมต่อลิตร ยังให้ประสิทธิภาพในการกำจัดไมโครพลาสติกสูงสุดร้อยละ 80.00±0.00 หลังจากที่ทราบปริมาณสารส้มที่เหมาะสมแล้ว โพลีอะคริลาไมด์ชนิดประจุลบจะถูกเติมลงไปเพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการกำจัดความขุ่นและไมโครพลาสติก โดยปริมาณโพลีอะคริลาไมด์ชนิดประจุลบ 0.06 มิลลิกรัมต่อลิตร ให้ประสิทธิภาพสูงสุดในการกำจัดความขุ่นในน้ำดิบที่มีไมโครพลาสติกที่ร้อยละ97.88±0.02 และปริมาณโพลีอะคริลาไมด์ชนิดประจุลบ 0.04 มิลลิกรัมต่อลิตร ให้ประสิทธิภาพสูงสุดในการกำจัดไมโครพลาสติก ที่ร้อยละ 85±0.00 ซึ่งผลที่ได้จากการศึกษานี้สามารถนำไปประยุกต์ใช้เพื่อเป็นแนวทางในการกำจัดไมโครพลาสติกผ่านกระบวนการสร้างตะกอนและรวมตะกอนในโรงบำบัดน้ำที่ผลิตน้ำประปาต่อไป
Description: โครงงานเป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาตามหลักสูตรปริญญาวิทยาศาสตรบัณฑิต ภาควิชาวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปีการศึกษา 2562
URI: http://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/79034
Type: Senior Project
Appears in Collections:Sci - Senior Projects

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
62-SP-ENVI-007 - Paranee Wattanarojruang.pdf970.68 kBAdobe PDFView/Open


Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.