Please use this identifier to cite or link to this item:
https://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/81421
Full metadata record
DC Field | Value | Language |
---|---|---|
dc.contributor.advisor | ปิยะบุตร บุญอร่ามเรือง | - |
dc.contributor.author | ธนกร สามคุ้มพิมพ์ | - |
dc.contributor.other | จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. คณะนิติศาสตร์ | - |
dc.date.accessioned | 2022-12-20T03:36:15Z | - |
dc.date.available | 2022-12-20T03:36:15Z | - |
dc.date.issued | 2564 | - |
dc.identifier.uri | http://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/81421 | - |
dc.description | เอกัตศึกษา น.ม. (การเงิน/ภาษีอากร)--จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2564 | en_US |
dc.description.abstract | โดยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีสารสนเทศในยุคปัจจุบัน ส่งผลให้การประกอบธุรกิจการค้าขายต่าง ๆ ของประชาคมโลกมีปริมาณเพิ่มขึ้นทั้งในด้านของปริมาณสิงค้าและบริการ การเชื่อมโยงของระบบการชำระเงิน ตลอดจนถึงการเคลื่อนย้ายเงินทุนไปมาระหว่างกันในแต่ละประเทศ เป็นต้น อย่างไรก็ตามภาคธุรกิจมักอาศัยช่องว่างทางกฎหมายของรัฐต่าง ๆ ที่ใช้ในการบริหารและจัดเก็บภาษีมาเพื่อการแสวงหาผลประโยชน์เฉพาะส่วนตน จากการณีดังกล่าวการที่การบริหารและจัดเก็บภาษีจะมีประสิทธิได้หรือไม่นั้น ข้อมูลที่เป็นส่วนหนึ่งและเป็นสิ่งพื้นฐานจำเป็นสำหรับใช้ในการบริหารและจัดเก็บภาษีให้มีความถูกต้อง โปร่งใส และเป็นธรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพนั้น ย่อมเป็นสิ่งสำคัญยิ่งที่ประเทศต่าง ๆ ควรจะได้รับและเข้าถึงเพื่อใช้ในการบริหารจัดเก็บภาษีของตน โดยองค์การเพื่อความร่วมมือและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ (OECD) ได้มีการกำหนดกรอบและแนวทางในการการแลกเปลี่ยนข้อมูลแบบร้องข้อ (Exchange of information on request : EOIR) ซึ่งปัจจุบันมีการกำหนดกรอบแนวทางไว้เพื่อให้ประเทศที่ได้รับการร้องขอข้อมูลต้องมีมาตรฐานและกลไกการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่เหมาะสมและถูกต้อง รวดเร็ว โดยในการแลกเปลี่ยนข้อมูลแบบร้องขอนี้ ประเทศที่เข้าร่วมจะต้องได้รับการประเมินมาตรฐานการรองรับการแลกเปลี่ยนข้อมูล (Peer reviews) จากคณะทำงานการตรวจสอบของ Global Forum ซึ่งผลการประเมินจะมีการให้คะแนนตามลำดับของการปฏิบัติตามาตรฐานที่ OECD กำหนด จากการศึกษาพบว่าประเทศไทยได้เข้าเป็นสมาชิก Global Forum on Transparency and Exchange of Information for Tax Purposes (Global Forum) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ดังนั้น ประเทศไทยจึงต้องเข้ารับการประเมิน ซึ่งตามกำหนดจะมีการประเมินในช่วงปี 2565 ซึ่งการประเมินจะมีการดำเนินตรวจสอบใน 3 หลักการ ซึ่งจากการศึกษานั้นพบว่าในบางปัจจัยประเทศไทยยังขาดความพร้อมในด้านของข้อกำหนดทางกฎหมาย ซึ่งหากประเทศไทยจะผ่านการประเมินด้วยคะแนนที่ดีได้จำต้องมีการออกกฎหมายเพื่อรองรับกรอบข้อกำหนดตามแนวทางของ OCED ให้เสร็จสิ้นพร้อมก่อนการประเมินด้วย | en_US |
dc.language.iso | th | en_US |
dc.publisher | จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย | en_US |
dc.relation.uri | http://doi.org/10.58837/CHULA.IS.2021.210 | - |
dc.rights | จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย | en_US |
dc.subject | การจัดเก็บภาษี | en_US |
dc.subject | กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ -- แลกเปลี่ยน | en_US |
dc.title | กรณีศึกษาการแลกเปลี่ยนข้อมูลแบบร้องขอและการปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ ความตกลงระหว่างประเทศที่ประเทศไทยเข้าร่วมเป็นสมาชิก | en_US |
dc.type | Independent Study | en_US |
dc.degree.name | นิติศาสตรมหาบัณฑิต | en_US |
dc.degree.level | ปริญญาโท | en_US |
dc.degree.discipline | กฎหมายการเงินและภาษีอากร | en_US |
dc.degree.grantor | จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย | en_US |
dc.subject.keyword | การแลกเปลี่ยนข้อมูลทางภาษี | en_US |
dc.subject.keyword | ภาษีอากรระหว่างประเทศ | en_US |
dc.identifier.DOI | 10.58837/CHULA.IS.2021.210 | - |
Appears in Collections: | Law - Independent Studies |
Files in This Item:
File | Description | Size | Format | |
---|---|---|---|---|
6380154034.pdf | 1.33 MB | Adobe PDF | View/Open |
Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.